วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

วิธีถอนคำสาปแช่ง

วิธีถอนคำสาปแช่ง
... มีคนจำนวนไม่น้อยมีชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์กาย - ทุกข์ใจ บ้างก็ทุกข์เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ทุกคนมักเห็นว่าทุกข์ของตนมีมากมาย ไม่ว่าทุกข์กาย - ทุกข์ใจก็ตาม และมักคิดคล้ายๆ กันว่าทุกข์ของตนมากกว่าทุกข์ของผู้อื่น
เมื่อมีความทุกข์ก็ย่อมพยายามดิ้นรนหาวิธีพ้นทุกข์ แต่ส่วนมากจะหาวิธีหนีทุกข์ในทางที่ผิดๆ แทนที่จะลดทุกข์กลับเพิ่มทุกข์ เช่นการดื่มสุราบ้าง เล่นการพนันบ้าง จนถึงฉ้อโกงลักทรัพย์ปล้นสะดม ลืมคิดถึงเวรกรรมว่าจะต้องตอบสนองแน่นอน ไม่เร็วก็ช้าเป็นการเพิ่มทุกข์ให้สาหัสขึ้น
พุทธศาสนาสอนให้ เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ว่าทำกรรมใดไว้ (ไม่ว่าดีหรือชั่ว) ก็ตาม ผลกรรมย่อมตามสนอง บ้างก็รวดเร็วทันตาเห็น บ้างก็รอคอยตามสนองไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น กรรมนั้นมีทั้ง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
มโนกรรมกับวจีกรรม เป็นสิ่งที่คนเราชอบกระทำมากที่สุด เมื่อยามโกรธเคืองหรือเจ็บแค้นใคร ไม่อาจตอบโต้ทางกายได้ก็กระทำทางวาจา เช่น แช่งด่า หรือทางใจก็นึกสาปแช่งให้คนที่ก่อกรรมให้ตน หรือทำให้ตนขุ่นเคืองต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นานา จนถึงลงมือกระทำการจริงๆ จังๆ
เช่น เผาพริก - เผาเกลือแช่งให้มีอันเป็นไปในทางร้ายๆ จนถึงแก่ชีวิตบ้าง จ้างวานผู้ที่ตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์ หรือหมอผีทำร้ายด้วยอาคม เช่น เสกตะปู เสกสายสิญจน์ แม้แต่หนังควายเข้าท้อง โดยเชื่อว่าจะได้ผลจริงๆ จังๆ
ทางธรรมะถือว่าเป็นการประสงค์ร้ายต่อผู้อื่น แม้จะเป็นเพียงความคิดก็เป็นบาปกรรมอย่างหนึ่ง จะต้องติดตามมาสนองให้ตอ้งชดใช้กรรมไม่ช้าก็เร็ว
ผู้ ใดมีความทุกข์กาย - ทุกข์ใจ โดยจำไม่ได้ว่าเคยทำบาปกรรมใดไว้บ้าง หรือมั่นใจว่าไม่เคยได้กระทำไว้เลย อาจจะเป็นกรรมเก่าก็ได้ที่เคยสาปแช่งผู้อื่นไว้ก็เป็นไปได้
พระชุมพล พลปญโญ ได้เขียน "คำถอนอธิษฐานที่เป็นมิจฉาทิฐิ" ในนิตยสาร "ไตรรัตน์" ฉบับที่ ๙ ไว้ดังนี้
"อิมัง มิจฉา อะธิฎฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉา อะธิฎฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ตะติยัมปิ อิมัง มิจฉา อะธิฎฐานัง ปัจจุธะรามิ"
ข้าพเจ้า ขอถอนคำอธิษฐาน ถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นถึงพร้อมแล้ว ด้วยกิเลส ด้วยตัณหา ด้วยอุปทาน ด้วยราคะ ด้วยโทสะ ด้วยโมหะ ด้วยมานะ ด้วยมิจฉาทิฐิ เป็นไปเพื่อความพยาบาทเบียดเบียน สร้างเวรสร้างกรรม ไม่ประกอบด้วยธรรม ไม่ประกอบด้วยวินัย ไม่ประกอบด้วยกุศล ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ที่ข้าพเจ้าได้อธิษฐานไว้ สาปไว้ แช่งไว้ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
ข้าพเจ้า ขออ้างเอาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า แม่พระธรณี แม่พระคงคง แม่พระเพลิง แม่พระพาย และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง มาเป็นพยาน ว่าข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานเหล่านั้น ถอนคำสาปเหล่านั้น ถอนคำแช่งเหล่านั้นร้อยหน พันหน หมื่นหน แสนหน ล้านหน โกฎิหน ณ กาลบัดนี้เทอญ
"นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน
นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน ยะคลอน
ถอนถ้วย นะโม พุทธายะ"
ข้าพเจ้า ขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัยในความบกพร่อง ผิดพลาดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิตวิญญาน ในทุกที่สถาน ในกาลทุกเมื่อเทอญ

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

วิธีแก้กรรม


วิธีการแก้กรรมเรื่องต่างๆ
1. ครอบครัวมีแต่ปัญหา
เกิดจากกรรม (สิ่งใดสิ่งหนึ่งดังนี้)
1. เคยทำแท้งไหม
2. ไม่ทำบุญให้บรรพบุรุษไหม
3. ไม่เข้าใจครอบครัว สามี ลูกหรือเปล่า
4. เคยผิดศีลกาเม ในชาติก่อนและชาตินี้ไหม
5. ทำผิดต่อเจ้าที่เจ้าทางไหม
วิธีแก้กรรม
1. นิมนต์พระเลี้ยงทำบุญบ้าน วันเกิด สวดชะยันโต ขอพร ประพรมน้ำมนต์ให้ครอบครัว อยู่เย็นเป็นสุข และถวายสังฆทานสวดอุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายให้อโหสิกรรมและช่วยครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
2. ไปถวายผ้าบังสุกุลอุทิศให้บรรพบุรุษให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขหรือทำบุญให้บรรพบุรุษให้ได้รับกุศล
3. เคยบอกรักสามีและลูกบ้างไหม ทำซะ จะทำให้เขาเข้าใจมากขึ้นว่าเรารัก
4. สวดมนต์ทุกวันเกิดตนเอง ขอพรเทพประจำตัวให้คุ้มครองครอบครัวให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
5. กราบไหว้เจ้าที่เจ้าทางด้วย อาหารคาวหวานชุดใหญ่ แก่พระภูมิเจ้าที่ให้ได้รับและขอพรให้อำนวยโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขให้ครอบ ครัวท่าน
+++++++++++++++++
2. กรรม....เสียเงินตลอด
เกิดจากกรรม
1. เคยเอาเงินเขามาในชาติอดีตแล้วไม่คืน
2. ปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยแพง
3. โกงคนในชาติปัจจุบัน
4. ทำแท้ง
5. ยุยงให้คนเสียเงิน โดยรู้ว่าผิดก็ให้ทำ
วิธีแก้กรรม
1. พยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศล ทุกวันเกิด ให้ผู้ที่เคยล่วงเกินกันมาตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติ ให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
2. หากมีคนที่ล่วงเกินยังมีชีวิตอยู่ หาเงินไปคืนและขออโหสิกรรมซะเพื่อชีวิตเราจะได้ดีขึ้นต่อไป
3. ตักบาตร วันโกนอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรและวิญญาณเด็กที่ตามมาให้ได้รับกุศล และเปิดทางให้ชีวิตดีขึ้น
4. ทำกุศลกับผู้มีพระคุณและช่วยคนไว้ เพื่อยามทุกข์ยากจะได้มีคนมาเหลียวแล และดูแลเราบ้าง
5. สวดมนต์ทุกวันเกิด และแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
++++++++++++++++++++
3. กรรมต้องสะเดาะเคราะห์
เกิดจากกรรม
เมื่อตนเองเข้าเสวยอายุที่ไม่ดี ก็จะประสบเคราะห์ร้าย เช่น ป่วยหนัก อุบัติเหตุ เสียเงิน จึงต้องสะเดาะเคราะห์ดังนี้
กรรมจาก 1. ชอบทำร้ายคนต่ำกว่าให้ทุกข์ทรมาน
2. ป่วยหนัก ฆ่าสัตว์ไว้ ผิดศีลข้อ 1
วิธีแก้กรรม
1. กินเจ 7 วัน อุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เคยทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติปัจจุบันชาติ
2. ตักบาตรให้ครบตามปีที่เข้าเสวยอายุ
3. ไหว้พระให้ครบ 7 วัน 7 วา ล้างเคราะห์ได้
4. ปล่อยสัตว์ลงน้ำ ตามกำลังวันเกิดตนเอง จนครบ 1 ปี เคราะห์จะกลายเป็นดี
5. ขอพรพระที่ตนนับถือ ไปที่วัด ไปขอพรท่านให้พ้นเคราะห์พ้นโศกและช่วยให้ชีวิตก็จะดีขึ้น
++++++++++++++++++++
4. กรรมคู่ไม่ดี
เกิดจากกรรม
1. เคยเป็นชู้กับผู้อื่นไว้ ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน
2. ทำร้ายจิตใจคู่ตนเองไว้
3. ทำร้ายร่างกายโดยตนเองอยากทำ เพราะหึงหวงให้เขาเจ็บปวด
4. ผิดศีลกาเม
5. ยุยงผู้อื่นให้เลิกกัน
วิธีแก้กรรม
1. ตั้งสัจจะว่าจะไม่แย่งผัวคนอื่น มาเป็นของตนเอง
2. หมั่นถวายเทียนคู่ในวันเกิดตนเองปีละครั้ง ขอเสริมดวงชีวิตคู่ให้พบแสงสว่างในชีวิตคู่ที่ดี โดยไปกับแผนและอธิษฐานขอพร
3. ถวายสังฆทานในวันเกิด เพื่อขอพรให้สมหวังด้านชีวิตคู่ และอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและคู่ชีวิตที่เคยล่วงเกินไว้ทั้ง อดีตชาติและปัจจุบันชาติให้ได้รับกุศล และอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
4. บริจาคทรัพย์ให้กับคู่แต่งงานในงานแต่งงาน เพื่อส่งเสริมให้เขาสมหวังในความรัก และตนเองก็จะได้บุญต่อไป
5. ไกล่เกลี่ยคู่สามี-ภรรยา ที่ทะเลาะกันแยกทางกัน ให้มารู้สึกดีต่อกัน จะได้บุญด้านธรรมทางด้านชีวิตคู่
++++++++++++++++++
5. กรรมเป็นเมียน้อย
เกิดจากกรรม
1. เคยผิดลูกผิดเมียเขามาในชาติก่อน
2. ผิดศีลกาเม
3. เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
4. ขืนใจเขาโดยเขาไม่ยินยอม
เมียน้อยมี 3 ประเภท
1. เมียน้อย ผัวดี ช่วยเหลือ เกิดจากเคยทำบุญใหญ่ ช่วยเหลือคนและครอบครัวมามาก และอธิษฐานจิตมาเจอกัน แม้ไม่ได้เป็นเมีย 1 แต่เป็นเมีย 2 ที่ถูกต้อง เพราะกุศลนำพามาเจอ จึงทำให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ผิด ไม่บาป
2. เมียน้อย ผัวร้าง แต่ไม่หยุดที่เขา ทำให้เป็นโดยขำยอมเพราะกรรมเก่าที่เคยทำไว้ จึงต้องรับภาระเพราะทั้งรัก ทั้งเจ็บ กรรมนี้อยู่ในการเคยขืนใจเขาไว้ แต่พอมาชาตินี้จึงต้องตกอยู่ในภาระจำยอมเจ็บ เพราะรักเขา
3. เมียเก็บ ผัวบังคับ แต่ส่งเสีย เกิดจากกรรมที่เคยผิดลูกผิดเมียเขาไว้ จึงต้องทุกข์ใจ แต่สบายกาย
วิธีแก้กรรม
1. ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้ รับกุศลและอโหสิกรรม
2. ถือศีล 5 ให้ได้ 1 ปี ต่อ 1 เดือน จะทำให้ชีวิตดีขึ้น
3. ถวายธงคู่ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น
3. บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น
5. ร่วมเป็นเจ้าภาพ งานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้น และสมหวัง และสวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป
+++++++++++++++++++
6. กรรม ทุกข์ใจเพราะญาติพี่น้องและสามี
เกิดจากกรรม
1. เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน
2. เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน
3. เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
วิธีแก้กรรม
1. ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น
2. ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณ มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยว ได้
3. นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
+++++++++++++++++++++
7. กรรมเป็นอัมพฤกษ์
เกิดจากกรรม
1. ฆ่าสัตว์
2. ทรมานสัตว์
3. ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
วิธีแก้กรรม
1. ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติรวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน
2. ปล่อยสัตว์ลงน้ำ ในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม
3. ถวายยาเข้าวัด หรือช่วยเหลือคนป่วย
+++++++++++++++++++++++
8. กรรมเป็นมะเร็ง
เกิดจากกรรม
1. เคยฆ่าสัตว์ หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์มาก่อน จึงส่งผลให้มีสุขภาพที่รักษาไม่ได้
2. มีจิตใจเหี้ยมโหดมาตั้งแต่อดีตชาติ โดยสั่งฆ่าคนและทำร้ายคนให้เจ็บปางตาย
3. ทำแท้งมากมาย
4. เบียดเบียนเงินคนมากมาย บนความทุกข์คนอื่นในอดีตชาติ
วิธีแก้กรรม
1. ต้องทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
2. สร้างพระถวายให้เจ้ากรรมนายเวร
3. ให้มาสัมผัสจิตกับพระแม่อุมาเทวีโดยตรง
++++++++++++++++++++++
9. กรรมลูกไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง
เกิดจากกรรม
1. ทำแท้ง
2. เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
วิธีแก้กรรม
1. บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง
2. พาลูกไปหาหลวงปู่ ให้เทศน์สอน
3. ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง
++++++++++++++++++++++
10. กรรมค้าขายขาดทุน
เกิดจากกรรม
1. ไม่รู้เชี่ยวชาญในงานที่ทำ และไม่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
2. ทำแท้ง
3. ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้
4. ตั้งสัจจะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะทำบุญเท่านั้น แต่พอทำจริงทำน้อยนิดผิดสัญญาเป็นกรรม
+++++++++++++++++++++++++
11. กรรมเกิดมาไม่สวย
เกิดจากกรรม
1. ทำอะไรลวกๆ กับพระ พ่อแม่
2. ชอบว่าผู้อื่น และทำร้ายสัตว์
3. ถวายดอกไม้แห้ง-เหี่ยว
แก้วิบากกรรม
1. หมั่นถวาย ดอกไม้หอม พวงมาลัย ไม่เวียนต่อพระพุทธรูป พระภิกษุสงฆ์ เทพด้วยกิริยาที่ตั้งใจ
2. ไม่ลบหลู่ ผู้มีพระคุณ รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
3. บริจาคน้ำมันตะเกียง ขอแสงสว่างด้านความงาม
++++++++++++++++++++++
12. กรรมมีกลิ่นตัวเหม็นตลอด
เกิดจากกรรม
1. ชาติก่อนชอบดูถูกคนอื่น
2. ชาติก่อนชอบคิดอิจฉาริษยาผู้อื่น
วิธีแก้วิบากกรรม
1. ต้องรู้จัก เห็นผู้อื่นได้ดี พลอยยินดีไปด้วย
2. หมั่นถวายของหอม ดอกไม้ไม่ให้ขาด
+++++++++++++++++++++
13. กรรมเกิดมาโง่
เกิดจากกรรม
1. ดูถูกผู้ที่หมั่นหาความรู้ และชักชวนไปทำผิด
2. ไม่ขยันหมั่นเพียรศึกษาหาความรู้ แต่ทำตัวมั่วสุมในทางผิด
แก้วิบากกรรม
1. หมั่นทำบุญด้านหนังสือธรรมมะ หรือพิมพ์บทสวดมนต์แจก
2. ให้ถวาย หลอดไฟฟ้า เพราะกุศลจะส่งผลให้ตนเองมีปัญญาแจ้งแดงตลอดในงานนั้น ถวายในวันเกิดข้างขึ้น 7-15 ค่ำ เจริญขึ้น
3. หมั่นสวดมนต์ทุกวัน
4. หมั่นกตัญญูต่อความถูกต้อง และมีวิริยะมากขึ้น
+++++++++++++++++++++++++
14. กรรมมีบริวารไม่ดี
เกิดจากกรรม
1. ไม่กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และคนใกล้ชิดในชาติก่อน
2. เคยให้ร้ายคนอื่นไว้ก่อน เมื่ออดีตชาติ
3. ไม่ช่วยเหลือส่วนรวม
แก้วิบากกรรม
1. หมั่นทำบุญโดย ให้ทาน กับบุคคลที่ใกล้ตัว และหมั่นชักชวนบุคคลอื่นทำบุญร่วมกัน เกิดชาตินั้นฉันใดจะมีบริวารมากมาย
2. ให้ร่วมทำบุญด้าน บวชนาคหมู่ หรือสามเณรภาคฤดูร้อน จะทำให้พ้นทุกข์และมีบริวารที่ดี อยู่ในศีลธรรม
3. หมั่นกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
++++++++++++++++++++++++++
15. กรรมให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
เกิดจากกรรม
1. ฆ่าสัตว์ไว้เยอะ
2. เห็นคนเป็นอันตราย ก็พลอยสมน้ำหน้า
3. จิตใจอาฆาต คอยแช่งบุคคลอื่นเสมอ
4. ทำแท้ง ฆ่าคนมาก่อน
แก้วิบากกรรม
1. สร้างประตูวัด ป้องกันอันตรายให้ตนเอง ทำวันเกิดตนเองจะทำให้แคล้วคลาดอันตรายได้
2. มีหิริ โอตัปปะ ในจิตใจ
3. สวดมนต์คาถาป้องกันภัย 10 ทิศ ทุกวันเกิด 3 จบ
4. ตักบาตรทุกวันเกิด อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรให้อโหสิกรรม
++++++++++++++++++++++++++++++
16. กรรมเจอแต่คนเอาเปรียบ
เกิดจากกรรม
1. เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ
2. เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ
3. ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
แก้วิบากกรรม
1. หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น
2. ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย
3. หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดีๆ เข้ามาในชีวิต
++++++++++++++++++++++
17. กรรมไม่มีลาภลอย
เกิดจากกรรม
1. ไม่เคยทำบุญเกินจิตที่ตั้งไว้ และเวลาบริจาคเสียดายทรัพย์ทั้งทั้งที่ตนมีเงินมากมาย เกิดความตระหนี่แบบไม่ให้ทานอย่างเต็มใจ
2. ไม่ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจ และยังอยากโลภได้เงินมากๆ โดยมิชอบ
แก้วิบากกรรม
1. ตั้งจิตทำบุญ ทำกุศลด้วยความบริสุทธิ์ใจ และตั้งมั่นที่จะช่วยเหลือศาสนาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
2. หมั่นทำบุญใหญ่ ขอพรด้านลาภลอย
3. ให้ฝังลูกนิมิตร ปีละครั้ง อธิษฐานขอพรจะทำให้สมหวังในจิตที่ขอ
+++++++++++++++++++++++
การออกกรรม
กรรม คือ การกระทำ หากทำกรรมไม่ดีก็ทำให้ทุกข์ทรมาน การออกกรรมทำให้รู้กรรมและแก้กรรมได้
ทุกข์จากกรรมที่ตนเคยทำไว้ตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ ยังผลให้ตนเองได้รับวิบากนั้น ทำให้ชีวิตทุกข์ต่างๆ การออกจากกรรมนั้น เป็นการแสดงอาการกรรมให้รู้ เพื่อแก้ไขมิใช่ให้ยึดติด เพราะจะทำให้จิตไม่ตัดกรรม ฉะนั้นเมื่อรู้กรรม ควรทำกุศลในทางที่ถูกต้อง เพื่อชีวิตที่จะดีขึ้นต่อไป
วิธีออกกรรม
นั่งสมาธิ บริกรรมยุบ พอง เป็นอาการเร่งกรรมให้แสดงออก ควรมีพระผู้รู้กำกับจะทำให้ไม่บ้า และส่งกุศลได้ถูกต้อง ดวงจิตที่มืดก็เปิดสว่างได้ บุญก็เกิด เช่น
เคยฆ่าปลา-ควรทำสังฆทานอุทิศให้ทุกเดือนติดกัน 1 ปี (กรรมป่วยบ่อย) จะทำให้คุณดีขึ้น
เคยทำร้ายผู้มีพระคุณ-ควรขอขมาผู้มีพระคุณ และขอพรทุกปี ทำให้ (กรรมโดนกด) วันสำคัญทุกปี
เคยด่าคนไว้-หมั่นตักบาตรทุกวันเกิดตนเอง อุทิศให้เจ้ากรรม (กรรมเป็นโรคลม) นายเวร อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน

เรื่องที่ 1..กรรมของพระพุทธเจ้า


กรรมของพระพุทธเจ้า...สมณโคดม
พระพุทธเจ้าของเราทรงเผยพระประวัติกรรมและผลของกรรมของพระองค์ กับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะประทับเหนือพระศิลาอันน่ารื่นรมย์ใกล้สระอโนดาด ทรงกล่าวว่าครั้งหนึ่ง เห็นภิกษุผู้อยู่ป่ารูปหนึ่งจึงได้ถวายผ้าท่อนเก่า โดยตั้งปารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ผลแห่งกรรมอันเนื่องด้วยผ้าท่อนเก่านั้น ได้สำเร็จในความเป็นพระพุทธเจ้า
ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นในภพสุดท้ายนี้ พระองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มตามต้องการ เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น ต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส
ชาติหนึ่งเคยเป็นนักเลงชื่อปุนาลี ได้กล่าวใส่ความพระปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่าสุรภิผู้มิได้ประทุษร้าย ด้วยผลแห่งกรรมนั้นต้องไปท่องนรกสิ้นกาลนาน เสวยทุกขเวทนาสิ้นพันปี ด้วยกรรมที่เหลือในภพสุดท้ายก็ถูกใส่ความ เพราะเหตุแห่งนาง
สุนทริกา ซึ่งเป็นนักบวชหญิงถูกพวกเดียรถีย์ใช้ให้ทำเป็นไปค้างคืนกับพระสมณโคดม ให้ใครต่อใครหลงผิดทั้งที่นางค้างที่อื่น แต่รุ่งเช้าก็ทำท่าโผเผมาจากเชตวนาราม อีกสองสามวันที่มีคนโจษจันกัน พวกเดียรถีย์ก็จ้างนักเลงไปฆ่านาง ป้ายความผิดว่านางถูกฆ่าปิดปาก คนสงสัยว่าอาจจะจริง ร้อนถึงพระราชาส่งราชบุรุษไปสืบดูตามร้านสุรา ก็จับนักเลงที่ฆ่ากับเดียรถีย์ที่จ้างฆ่ามาลงโทษทั้งหมด
อีกชาติหนึ่งเป็นพราหมณ์ผู้มีความรู้ มีผู้เคารพสักการะ สอนมนต์แก่มานพ 500 ได้ใส่ความภีมฤษีผู้มีอภิญญา มีฤทธิ์มาก หาว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม มานพทั้งหลายก็พลอยชื่นชม เมื่อไปภิกขาจารในสกุลก็เที่ยวกล่าวแก่มหาชนว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม ผลของกรรมนั้นภิกษุ 500 เหล่านี้ทั้งหมดก็พลอยถูกใส่ความด้วย เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกาทีถูกนักเลงฆ่าป้ายความผิดให้พระพุทธองค์ ภิกษุทั้งหลายที่อยู่ในเชตวนาราม พลอยถูกหาว่าร่วมกันฆ่าปิดปากนางสุนทริกา และถูกด่าว่า กระทั่งพระราชาจับนักเลงและเดียรถีย์ที่ร่วมกันฆ่านาง จึงสงบ
อีกชาติหนึ่งไปกล่าวใส่ความพระสาวกของพระสัพพาภิภูพุทธเจ้า มีนามว่านันทะ จึงต้องท่องไปในนรกหลายหมื่นปี เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ถูกใส่ความมาก และด้วยกรรมที่เหลือ ชาติสุดท้ายนี้จึงถูกนางจิณจมาณวิกา ใส่ความว่าพระองค์ทำให้นางตั้งครรภ์
ชาติหนึ่งเคยฆ่าน้องชายต่างมารดาเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ผลักลงในซอกเขา เอาหินทุ่ม ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงถูกพระเทวทัตเอาหินทุ่มที่เขาคิชกูฏ จนสะเก็ดหินกระเด็นถูกหัวแม่เท้า ห้อพระโลหิตในชาติสุดท้าย
อีกชาติหนึ่งเป็นเด็กเล่นอยู่ในทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเผาสิ่งต่างๆ ขวางทางไว้ ผลกรรมนั้น ในภพสุดท้ายจึงถูกพระเทวทัตส่งคนตามล่า
ชาติหนึ่งเป็นนายควาญช้าง ไสช้างไล่กวดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต ผลแห่งกรรมนั้น ชาติสุดท้ายถูกช้างนาฬาคิรีดุร้ายเมามัน วิ่งเข้ามาเพื่อทำร้ายในนครอันประเสริฐมีภูเขาเป็นคอกคือกรุงราชคฤห์ ซึ่งมีภูเขาห้าลูกแวดล้อม
อีกชาติหนึ่งเป็นพระราชา เป็นหัวหน้าทหารเดินเท้า ฆ่าบุรุษหลายคนด้วยหอก ผลแห่งกรรมนั้นต้องหมกไหม้อย่างหนักในนรก ด้วยผลที่เหลือแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้าย สะเก็ดแผลที่เท้ากลับกำเริบ กรรมยังไม่หมด
ชาติหนึ่งเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม ด้วยผลของกรรมนั้นจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์
อีกชาติหนึ่งเคยเป็นบริภาษพระสาวกในพระธรรมวินัยของพระผุสสพุทธเจ้า ว่าท่านจงเคี้ยว จงกินข้าวเหนียวเถิด อย่ากินข้าวสาลีเลย ผลแห่งกรรมนั้นในชาติสุดท้ายนี้ ต้องบริโภคข้าวเหนียวอยู่สามเดือน เมื่อพราหมณ์นิมนต์ไปอยู่เมืองเนรัญชา แล้วลืมถวายอาหาร ได้อาศัยพ่อค้ามาถวายข้าวเหนียวแดงที่มีไว้ให้ม้ากิน

ชาติหนึ่งสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้า เคยทำร้ายบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงเจ็บที่หลังเรื่อย ชาติหนึ่งเคยเป็นหมอ แกล้งให้ยาถ่ายแก่บุตรเศรษฐี เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถึงแก่ชีวิต ผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ จึงเป็นโรคปักขันทิกะลงพระโลหิต
อีกชาติหนึ่งได้ชื่อว่าโชติปาละ เคยกล่าวกับพระสุคตพระนามกัสสปะว่า การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก ท่านจะได้จากควงไม้โพธิ์ที่ไหนกัน ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ต้องบำเพ็ญทุกกรกริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลาถึงหกปี ต่อจากนั้นจึงได้บรรลุการตรัสรู้

“เรามิได้บรรลุการตรัสรู้โดยทางนั้น ได้แสวงหาโดยทางที่ผิด เพราะถูกกรรมเก่าทวงเอา” พระองค์ทรงหมายถึง มิได้ปฏิบัติธรรมบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในทันทีเลย ต้องไปหลงผิดปฏิบัติทางอื่นอยู่หกปี อดอาหารจนแทบสิ้นชีวิตเมื่อบำเพ็ญทุกกรกริยา เปลี่ยนมาฉันอาหารอีก ทำให้ปัญจวัคคีย์โกรธเลิกนับถือหาว่าไม่มั่นคง แต่ภายหลังเมื่อพระองค์ทรงปฏิบัติถูกทางจนบรรลุธรรม ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วจึงไปโปรดปัญจวัคคีย์ ให้หายโกรธ หายเข้าใจผิด พระพุทธองค์ทรงสรุปการแสดงกรรมอันเกิดจากอดีตชาติทั้งหลายดังกล่าว “เราสิ้นบุญและบาปแล้ว เว้นแล้วจากความเดือดร้อนทั้งปวง ไม่มีความโศก ไม่มีความคับแค้นปราศจากอาสวะ จักปรินิพพาน”
กรรมและผลของกรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้ประจักษ์ มีเนื้อหาให้เห็นว่า กรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้แค่แสดงความชื่นชมกับผู้หลงผิดคิดผิด ยังต้องรับกรรมเช่นภิกษุห้าร้อยรูป ที่พลอยรับกรรมถูกตำหนิด่าว่าเป็นผู้ร่วมกันฆ่านางสุนทริกาเพื่อปิดปาก ไปกล่าวร้ายพระพุทธเจ้าว่าเสพกามกับนาง ซึ่งมาจากกรรมสมัยมานพห้าร้อยคน สมัยพระองค์เป็นพราหมณ์สอน โดยชื่นชมกับคำกล่าวหาใส่ความของพราหมณ์อาจารย์ที่ว่าฤษีบริโภคกาม
หรือสมัยพระพุทธองค์เป็นเด็กชาวประมง ชื่นชมกับชาวประมงที่ฆ่าปลา ยังรับกรรมเจ็บที่ศีรษะเป็นต้น
การที่เราได้รับรู้เรื่องกรรมเก่า ไม่ว่าจะเป็นอดีตชาติหรือชาติปัจจุบันก็ตาม มีผลทำให้เราเข้าใจในเรื่องเหตุและผลของกรรม ที่ส่งผลมาเป็นปัจจุบัน แม่ชีท่านได้อภิญญามีเจตนาดี
สงสารผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องของกรรม และกำลังได้รับผลของกรรมนั้นซึ่งเป็นทุกข์อยู่ให้เข้าใจเหตุแห่งความทุกข์ นั้นมาจากไหนจะได้ไม่กระทำการซึ่งก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นอีก
การแจกแจงเรื่องของวิบากกรรมนั้นให้รับรู้จะได้เตือนและสอนให้รู้ว่า ทุกอย่างมีเหตุและมีผล ทำอไรก็ได้อย่างนั้น เหตุปลูกข้าวส่งผลให้ได้ข้าว เหตุปลูกมะม่วงส่งผลให้ได้มะม่วง เหตุหยิกมือตัวเอง ส่งผลก็เจ็บเองมีรอยแดง รอยเจ็บ
ช่องทางที่ใช้ก่อกรรมได้แก่ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมที่สร้างทาง กาย วาจา ใจ บางทีเราก็ค่อนข้างมองข้ามกรรมทางมโนกรรมไป เช่นชอบตำหนิ มองคนอื่นในแง่ลบในแง่ร้าย นินทาในใจ อิจฉาริษยา ใส่ร้ายป้ายสีในใจ มีอคติ เข้าใจผู้อื่นผิด เป็นต้น แม้ว่าจะคิดอยู่ในใจเพียงลำพังก็ตาม ไม่ได้ไปทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นรู้เห็นเพราะมันอยู่ในใจ ไม่ได้ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดชักดิ้นชักงอต่อหน้าต่อตาก็ตาม แต่นั่นก็เป็นการสร้างกรรมทางใจ เป็นตราบาปเก็บไว้ในใจของเราเอง
สิ่งเหล่านี้เราอาจคิดว่าไม่ได้เป็นกรรมอะไรมากมายนักหนาคงไม่มีผลอะไร เพราะเพียงแค่คิดไม่ได้ลงมือกระทำ หรือบางคนอาจคิดว่าไม่เป็นกรรมด้วยซ้ำไป เพราะเข้าใจว่ากรรมนั้นจะต้องกระทำด้วยกายหรือวาจา ส่วนกรรมทางใจนั้นมีผลน้อย แต่จริงๆแล้วกรรมทางใจนั้น มีผลร้ายแรงไม่แพ้กรรมทางกายกับทางวาจาเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าได้ทำกับผู้ที่มีศีลสูง ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่างพระภิกษุสงฆ์ เป็นต้น และผู้มีพระคุณเช่น พ่อแม่ เป็นต้น และเพียงแค่เราเห็นผิดไป เช่น ไปเห็นชอบเข้าข้างคนทำผิด ชื่นชมยินดีกับคนกระทำผิด เป็นต้น ก็ทำให้เรามีส่วนที่จะต้องรับผลของกรรมนั้นไปด้วย ความที่เราไม่รู้เท่าทันการก่อกรรมทางใจนี้จึงมีผลทำให้เกิดวิบากกรรมกับเรา
แต่เมื่อเราได้มีโอกาสรับรู้เช่นนี้แล้ว เราควรต้องระมัดระวัง กาย วาจา ใจ ของเราอย่างมีสติ การฝึกสติจึงมีผลช่วยในเรื่องการมีสติในการระงับยับยั้งการก่อกรรมไม่ดีทาง กาย วาจา ใจ นี้มากทีเดียว


กฎแห่งกรรม...จุดมุ่งหมาย


บล็อคนี้จัดทำขึ้นเพื่อบันทึกเรื่องราวของชีวิตในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสรรพสัตว์ต่างๆ ที่เชื่อว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปนั้น มีสิ่งหนึ่งที่คอยกำกับบงการ สิ่งนั้นเราเรียกว่ากรรม สรรพชีวิตในจักรวาลเป็นอยู่และเป็นไปภายใต้กฎแห่งกรรมนี้ทั้งสิ้น
กรรมมาจากไหน เกิดจากอะไร...?
กรรมคือการกระทำ ใชชีวิตของสัตว์โลกนั้นทำกรรมอยู่ตลอดเวลาทั้งทางใจ ทางความคิดและทางกาย
เมื่อมีการกระทำย่อมมีผลของการกระทำนั้นๆ ถ้ากระทำกรรมดีผลดีก็ยอมบังเกิด ถ้ากระทำไม่ดี ความไ่ม่ดีก็บังเกิดเป็นผล
เมื่อทำกรรมก็จะเกิดผลของกรรมเสมอ...นี่เรียกว่ากฎแห่งกรรม....
เราอยากให้บล็อคนี้เป็นที่สำหรับผู้ที่สนใจจะเขียนเรื่องราวของกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเองหรือแม้แต่เรื่องที่ได้รับรู้มา มาลงเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปให้รู้ถึงเหตุเพทภัยต่างๆ รวมทั้งผลบุญต่างๆที่เกิดจากการกระทำด้วย
เรื่องที่จะนำมาโพสน์ลงในบล็อคถ้าเรื่องไหนดีมีลักษณะเข้าข่ายนักเขียน เราจะพิจารณาผลตอบแทนให้ตามความเหมาะสม

สนใจร่วมงานเขียน..โทร.087-121-3783
หรือส่งข้อเขียนเข้าพิจารณาที่ tapsompp@gmail.com
(สำหรับข้อเขียนที่จะส่งมาพิจารณา พิมพ์กระดาษ A4 ใช้ตัว 14 จำนวน 25 หน้าจบ)
(นอกจากเรื่องกฎแห่งกรรมแล้ว เรายังรับพิจารณานิยายรักด้วย จำนวน 25 หน้าจบเหมือนกัน)
ผู้ที่ผ่านการพิจารณาจะได้เป็นนักเขียนประจำทีมของเราครับ มีรายได้ต่อเรื่องตามสมควรครับ